[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงพยาบาลหัวไทร : Huasai Hospital
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
ผู้อำนวยการโรงพยาบาล


นายแพทย์ยุทธพงศ์ ณ นคร

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวไทร

เมนูหลัก
ระบบออนไลน์
ITA โรงพยาบาลหัวไทร

หน่วยงานภายใน
เครือข่ายโรงพยาบาล
เครือข่าย รพ.สต.
พจนานุกรมทางการแพทย์
เวปไซต์ทางการแพทย์


  

   เว็บบอร์ด >> >>
ต้องเร่งแก้จุดนี้! "โค้ชด่วน" ชี้รู้ปัญหา "ทัพลูกยางสาว" พร้อมปรับแก้ในสนามต่อไป   VIEW : 108    
โดย ชาบู

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 384
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 15
Exp : 87%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 49.230.53.xxx

 
เมื่อ : เสาร์์ ที่ 1 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2566 เวลา 16:43:34    ปักหมุดและแบ่งปัน




ความเคลื่อนไหวหลังเกมที่ "ทัพนักตบลูกยางสาวไทย" พลิกพ่ายให้กับ "นักตบสาวตราหมากรุก" โครเอเชีย ทีมอันดับ 26 ของโลก 0-3 เซต ในการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2023 สัปดาห์ที่สอง ที่ประเทศบราซิล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา

จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย ไม่สามารถเก็บชัยได้เลยในช่วงสัปดาห์ที่สอง แพ้รวดทั้ง 4 เกม ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากแฟนลูกยางบางส่วนที่คาดหวังว่าจะเห็นทีมทำผลงานได้ดีกว่าที่เป็นอยู่

โดยหลังจบเกม "โค้ชด่วน" ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมทั้งชื่นชมคู่แข่ง รวมทั้งเผยถึงปัญหาของทีมหนึ่งข้อที่ต้องหาทางปรับแก้ในสนามต่อไป

"ต้องชมโครเอเชียที่วันนี้เขาเล่นกันได้ดีมาก รวมถึงเราก็มีข้อผิดพลาดในการเล่นเยอะ ก็เลยทำให้พลาดคว้าชัยในวันนี้ครับ ภาพรวมเรายังไม่ดีเท่าที่ควร"

"เราต้องยอมรับว่าการเล่นของเรายังมีขึ้นๆ ลงๆ ทั้งในเรื่องของสภาพจิตใจ และการเล่น ที่เป็นสิ่งสำคัญมาก บางจังหวะเล่นดีก็ดีมาก คือเราไม่สามารถรักษามาตรฐานในการเล่นเอาไว้ได้ ซึ่งเราต้องพยายามปรับเปลี่ยนแก้ตรงนี้ให้ได้" โค้ชทีมชาติไทย กล่าว

สำหรับ "ทัพนักตบลูกยางสาวไทย" จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในสัปดาห์ที่สาม ที่จะทำการแข่งขันกันที่ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก โดยจะประเดิมสนามเกมแรกพบกับ เนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 27 มิถุนายน นี้ เวลา 20.15 น.

ติดตามข่าว : 
mobilitynorthernireland.com