[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงพยาบาลหัวไทร : Huasai Hospital
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
ผู้อำนวยการโรงพยาบาล


นายแพทย์ยุทธพงศ์ ณ นคร

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวไทร

เมนูหลัก
ระบบออนไลน์
ITA โรงพยาบาลหัวไทร

หน่วยงานภายใน
เครือข่ายโรงพยาบาล
เครือข่าย รพ.สต.
พจนานุกรมทางการแพทย์
เวปไซต์ทางการแพทย์


  

   เว็บบอร์ด >> >>
จุดพลุแฟลร์หาพ่อง ซึ่งมันไม่ใช่ อันเป็นข้อห้ามสำคัญที่ เอเอฟซี  VIEW : 109    
โดย หยาด

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 185
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 10
Exp : 100%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 125.25.50.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 29 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2566 เวลา 12:58:14    ปักหมุดและแบ่งปัน

จุดพลุแฟลร์หาพ่อง จริงๆ เราไม่ต้องมานั่งระทมกบาลกับความสถุน ต่ำตม ของเหล่าบัวใต้น้ำเพียงไม่กี่คนนี่ก็ได้นะ

จุดพลุแฟลร์หาพ่อง แต่ไอ้การกระทำ ซึ่งไอ้การกระทำนั้น ที่ทำแล้วซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งที่กฏและการคาดโทษ กำลังมุ่งตรงมาสู่ทีมชาติไทย และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย (อีกแล้ว)

“พลุแฟลร์” อันเป็นข้อห้ามสำคัญที่ เอเอฟซี และฟีฟ่า ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นในสังเวียนการแข่งขันด้วยเงื่อนไขของความปลอดภัย และทุกคนต้องระลึกพร้อมกับสำเนียกไว้ในสมองว่าต้องไม่ให้เกิดขึ้นในสนาม ทั้งฝ่ายจัด แฟนบอล และกลุ่มคนต้องรับรู้ร่วมกันในเรื่องนี้

แต่เกมฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ทีมชาติไทย พ่าย เกาหลีใต้ 1-4 ณ ปทุมธานี สเตเดียม กลับบังเกิดเรื่องราวละเหี่ยใจแบบซ้ำซากอีกเช่นเคย และกลุ่มคนต้นเรื่องที่ก่อเหตุมันก็กลุ่มเดิมๆ

กลุ่ม “Ultra Thailand” กลุ่มคนชุดเดิมหนังหน้าเดิมๆ ที่ยังเดินหน้าจารึกความเดือดร้อนให้กับส่วนรวม แถมยังยิ้มร่าพร้อมความภาคภูมิใจเสียเต็มประดาว่า การจุดพลุแฟร์ในสนามคือความสวยงาม โธ่ ไอ้ฉิบหาย!!!

ภาพการจุดพลุแฟลร์แบบชัดๆ ที่บังเกิดขึ้นบนอัฒจรรย์ ในโซน S1 ของสนามปทุมธานี สเตเดียม เมื่อวานนี้มันชัดเจนว่า ความผิดปรากฏชัดแจ้ง และสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ ทีมชาติไทย ก็จงเตรียมตัวรับมือกับบทลงโทษจาก AFC ในเวลาอันไกล้นี้โดยไร้ข้อต่อแย้งใดๆ

การชวดตั๋วไปลุยบอลโลกของน้องๆนักฟุตบอลในชุดนี้ของไทยเรา เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ด้วยมาตรฐานที่เรายังไม่ได้อยู่ในจุดนั้น และการพ่ายแพ้ต่อเกาหลีใต้ 1-4 ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเสียใจใดๆ

แต่เหตุการณ์ของกลุ่มแฟนบอลกลุ่มเดิมๆนี้ต่างหาก ที่ทำลายทุกความรู้สึกหลังเกมไปสิ้นเชิง!!!

ถามว่าผมเดือดร้อนอะไรที่ต้องเขียนเรื่องนี้อีกครั้ง ถ้ากลุ่มพวกนั้นฟังอยู่นะ ฟังนะ ฟังกูนะ

กูเดือดร้อนในฐานะที่กูก็เป็นแฟนบอลเหมือนกับพวกมึงนั่นแหล่ะ มันต่างกันตรงที่กูทำงานสื่อ และเห็นภาพที่พวกมึงทำแบบนี้มานานแสนนาน โดยที่พวกมึงยังยืนกระต่ายขาเดียวบนความเชื่อว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้อง นี่คือสิ่งคู่ควรกับรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจของพวกมึงไง

จุดพลุแฟลร์หาพ่อง ซึ่งมันไม่ใช่ มันไม่ใช่เลย!

จุดพลุแฟลร์ แถมยังขว้างปาลงมาในสนาม ต่อหน้าเจ้าหน้าที่จากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี สิ่งนี้คือผลงานอันน่าเศร้าของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าแฟนบอลจากแก๊งแฟนบอลพันธุ์แท้ “Ultra Thailand”

เท่านั้นไม่พอนะ พวกคนกลุ่มนี้ยังตะโกนด่าน้องๆนักเตะในสนาม และยังแจกนิ้วกลางให้กับเจ้าหน้าที่ และกลุ่มคนที่โห่ใส่อีกด้วย

“สถุน ต่ำตม” ไม่ทราบว่าพอจะเข้ากับคนกลุ่มนี้บ้างมั๊ยครับ???

ถามจริงๆ พวกมึงต้องการอะไรกันแน่

ที่ทำลงไป “ภาพมันสวยงาม”, “ภาพออกมามันเท่” , “ภาพออกมามีคนชื่นชื่ม” แบบนี้หรือที่อยากได้จากสังคม

พวกมึงรู้ทั้งรู้ว่าปลายทางมันจะต้องมีบทลงโทษสถานหนักออกมา แต่ก็ยังทำ รู้ทั้งรู้ว่าเสี่ยงและจ่อที่จะโดนลงโทษ แต่สุดท้ายพวกมึงก็เลือกทำโดยไม่มีใครเตือนใครในกลุ่มเลยหรือ

ถ้าจำกันได้ ก่อนหน้านี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพิ่งจะโดนคาดโทษ และถูกปรับเงินจากเอเอฟซี หลังมีการจุดพลุแฟลร์ในสนามหลายทัวร์นาเมนต์

ซึ่งบทลงโทษที่เป็นความผิดซ้ำซากเช่นนี้ บอกตรงนี้เลยว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เตรียมรับบทลงโทษที่สูงกว่าการปรับเงินแบบที่ผ่านมา และกำลังเดินไปถึงจุดต่อไป

นั่นคือ…

นั่นคือ…

นั่นคือ!!!…

ประเทศไทยเตรียมตัวเตรียมใจชวดการเป็นเจ้าภาพในรายการระดับนานาชาติทุกรายการต่อจากนี้ และทีมชาติไทยอาจไม่ได้เล่นเกมในบ้าน ซึ่งโทษในครั้งนี้มันแทบไร้ข้อโต้แย้ง เพราะมันคือการทำผิดในแบบเดิมๆ เรื่องเดิมๆ

คำถามต่อมาคือ สมาคมกีฬาฟุตบอลเอง ทำไมถึงไม่ลากตัวไอ้หัวโจก ลากตัวไอ้คนก่อเหตุมารับโทษที่พวกมันได้ทำไว้ แบบจริงจังซะที!

รอบนี้ภาพมันชัดเจนมากนะ นายกสมาคมฯเอง ก็เคยเป็นถึงอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ยังนิ่งเฉยกับเรื่องนี้อีกหรือ?

นี่ท่านไม่คิดจะทำอะไรที่มากไปกว่าการยอมจ่ายเงินค่าปรับที่ไม่สมควรต้องจ่ายเลยหรือ

ผมรอนะ ผมรอสมาคมฯ จะออกมาแอ๊กชั่นในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นซ้ำซากจนรู้สึกในใจว่า องค์กรฟุตบอลบ้านเรามันไร้น้ำยาขนาดที่เห็นความผิดซึ่งหน้าเช่นนี้ ยังไม่สามารถลากตัวคนทำผิดมาลงโทษได้เลยเหรอ!!!

สรุป

อย่าให้แฮชแท็ก “#จุดพลุแฟลร์หาพ่อง” มันล่องลอย ฟุ้งกระจายไปในอากาศแล้วจบลงแบบที่คนผิดมันลอยหน้าลอยตาในสังคมบนความภาคภูมิใจแบบไม่สนโลกอีกต่อไป!!!

ถ้าเรื่องนี้จบลงด้วยความเงียบ ไอ้กลุ่มแฟนบอลเศษเดนกลุ่มนั้น มันคงได้แต่หัวเราะ และบอกว่าเออดี กูทำอะไรก็ไม่ผิดนี่หว่า…………ถุยส์!!!

อ้างอิง

https://www.sanook.com/

https://have-a-look.net/2023/06/26/%e0%b8%88%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b9%81%e0%b8%9f%e0%b8%a5%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b8%8b%e0%b8%b6%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%a1/