[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงพยาบาลหัวไทร : Huasai Hospital
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
ผู้อำนวยการโรงพยาบาล


นายแพทย์ยุทธพงศ์ ณ นคร

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวไทร

เมนูหลัก
ระบบออนไลน์
ITA โรงพยาบาลหัวไทร

หน่วยงานภายใน
เครือข่ายโรงพยาบาล
เครือข่าย รพ.สต.
พจนานุกรมทางการแพทย์
เวปไซต์ทางการแพทย์


  

   เว็บบอร์ด >> >>
เปิดประวัติ พิธา นายกหนุ่มคนที่ 30 ของประเทศไทย  VIEW : 108    
โดย หยาด

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 185
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 10
Exp : 100%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 1.2.185.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 22 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 เวลา 17:58:12    ปักหมุดและแบ่งปัน

ประวัติทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หนุ่มนักเรียนทุนฮาร์วาร์ดคนแรกของไทย
ใครจะไปเชื่อว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือ ทิม หนุ่มหล่อในวงการนักธุรกิจ ที่ตอนนี้หันมาเอาดีทางด้านการเมืองที่ทั้งดูดี และเรียนเก่งสุดๆ
จนได้เป็นนักเรียนทุนคนแรกจากไทยที่ฮาร์วาร์ด คนนี้ สมัยเด็กเขาเคยเป็นคนเกเรมาก่อน ซึ่งเกเรมากๆ จนถึงขนาดพ่อของเขาถึงกับต้องส่งตัวของเขาให้ไปเรียนที่ต่างประเทศกันเลยทีเดียว

ซึ่งในครั้งนี้จะนำเสนอเรื่องราวในวัยเด็ก ตลอดถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กเกเรเป็นเด็กเรียนจนเรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
รวมไปถึงได้เป็นนักเรียนทุนคนแรกจากไทยที่ฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยระดับโลก ของ ทิม– พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้ได้อ่านกันซะหน่อย บอกเลยว่าชีวิตของเขานั้นเรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ประวัติทิม พิธาลิ้มเจริญรัตน์
ทิม มีชื่อจริงว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
เกิดวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2523
ภูมิลำเนาเป็นคน กรุงเทพมหานคร
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ การเงิน การธนาคาร ภาคภาษาอังกฤษ
ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ คณะการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นนักเรียนไทยคนแรกที่ได้ทุนการศึกษา International Student ของ Kennedy School of Government, มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปริญญาโทใบที่สองจากคณะบริหารธุรกิจ Sloan, Massachusetts Institute of Technology (M.I.T.) ประเทศสหรัฐอเมริกา
IG : tim_pita
เขาเผยว่าเขาไม่ใช่เด็ก เก่ง เด็กฉลาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาเป็นคนเกเรมากในตอนเด็ก ทั้งมีเรื่องชกต่อย สูบบุหรี่ มีเรื่องมากมายจนทำให้พ่อของเขาต้องส่งไปเรียนหนังสือที่นิวซีแลนด์ จึงทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งต้องหาเงินใช้เองจากการทำงานพิเศษหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์ ส่งนม ทำงานพาร์ทไทม์มากมาย จนทำให้เขาเปลี่ยนตัวเองทั้งด้านความคิดได้อย่างดี

ทิมยังบอกอีกว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก นั้นการเรียนการศึกษาแทบจะไม่ต่างจากการเรียนในประเทศไทยเลย ส่วนสิ่งที่ต่างกกันก็คือ คุณภาพของนักศึกษาและคุณภาพการสอน โดยครูที่นั่นจะเน้นการถามนักศึกษา ไม่ใช่พูดๆ ไปเรื่อยๆ ให้นักศึกษาจด จึงทำให้นักศึกษามีส่วนร่วมในห้องเรียนได้มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นนักเรียนที่เรียนดี และมีความสามารถมากๆ โดยหลังจากนั้นเขาก็ศึกษาต่อที่ Massachusetts Institute of Technology (M.I.T.) ซึ่งเป็น มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมานานในเรื่องงานวิจัยและการศึกษาในสาขาเคมี ฟิสิกส์ และวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ ระดับโลก

หลังจากนั้น ทิม ได้เข้าสู่การเมืองด้วยการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่  และได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคในลำดับที่ 4 และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งแรกที่ลงรับเลือกตั้ง ผลงานทางด้านการเมืองของเขาเรียกว่าแสดงให้เห็นถึงทัศนคติความสามารถของเขาได้เป็นอย่่างดี โดย การอภิปรายครั้งแรกในสภาของเขาเรื่องนโยบายทางการเกษตรของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหา กระดุม 5 เม็ด ได้รับการตอบรับที่ดีจาก ประชาชน ผู้ชมผู้ฟังการประชุมสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงขนาดที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังเอ่ยปากชื่นชม

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ในวันที่ 8 มีนาคม พิธาก็ได้ย้ายไปสังกัด พรรคก้าวไกล ร่วมกับอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่อีก 54 คน โดยเขารับหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรค

เส้นทางการเมือง
พิธาก้าวเข้าสู่วงการเมืองด้วยการเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง ต่อมาพิธาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคในลำดับที่ 4 และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งแรกที่ลงรับเลือกตั้ง โดย พิธาได้รับเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ในสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่

การอภิปรายครั้งแรกในสภาของเขาเรื่องนโยบายทางการเกษตรของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหากระดุม 5 เม็ด ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน ผู้ชมผู้ฟังการประชุมสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงขนาดที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ยังเอ่ยปากชื่นชม

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ในวันที่ 8 มีนาคม พิธาก็ได้ย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกล ร่วมกับอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ อีก 54 คน โดย พิธา ได้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค

ชัยชนะของพรรคก้าวไกล และว่าที่นายกพิธา
สำหรับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนชาวไทยไปอย่างถล่มทลาย
โดยจากการนับคะแนนพบว่า พรรคก้าวไกลสามารถเอาชนะแบบแลนด์สไลด์ไปได้ในหลายจังหวัด อาทิ สมุทรปราการ นนทบุรี ภูเก็ต จันทบุรี ระยอง ตราด สมุทรสาคร ลำปาง รวมไปถึงกรุงเทพมหานครที่ได้รับชัยชนะไปมากถึง 32 เขต จากทั้งหมด 33 เขตการเลือกตั้ง

ทั้งนี้จากคะแนนรวมล่าสุดพบว่า พรรคก้าวไกลที่นำโดยพิธาได้เก้าอี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ไปทั้งสิ้น 150 ที่นั่ง
มากเป็นอันดับหนึ่งจากการเลือกตั้ง 2566 โดยแบ่งสัดส่วนเป็น ส.ส. แบ่งเขต 112 ที่นั่ง และ ส.ส. บัญชีรายชื่อจำนวน 38 ที่นั่ง

จากผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้ขึ้นแท่นเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทยในทันที โดยต้องจับตามองกันต่อไปว่า พรรคก้าวไกลจะจับมือกับพรรคไหนเพื่อก่อตั้งรัฐบาลใหม่ และจะมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่เร็ว ๆ นี้.

ด้านชีวิตส่วนตัว
พิธามีข่าวคบหากับนักแสดงหญิงหลายคน เคยสมรสกับ “ต่าย–ชุติมา ทีปะนาถ” นักแสดงชื่อดัง สมรสเมื่อ พ.ศ. 2555
และหย่าร้างเมื่อ พ.ศ. 2561 มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คนคือ เด็กหญิงพิพิม ลิ้มเจริญรัตน์ ทั้งสองมีสิทธิดูแลลูกเท่ากัน

อ้างอิง
https://www.sanook.com/

https://mydeedees.com/%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%b4-%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b2-%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b8/