[ คลิกที่รูปเพื่อดูขนาดจริง ]
เดอร์ริค ไวท์ กองหลังทีมบอสตัน เซลติกส์ ทำแต้มสวนกลับอย่างน่าอัศจรรย์ เอาชนะทีมไมอามี ฮีต 104-103 ในเกมที่ 6 ของรอบชิงชนะเลิศสายตะวันออกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ชัยชนะที่ไม่น่าเป็นไปได้ของเซลติกส์ลบการขาดดุล 0-3 ซีรีส์และทิ้งให้พวกเขาอยู่ในประวัติศาสตร์ของ NBA เนื่องจากไม่มีทีมใด (0-150) ที่เคยชนะซีรีส์เพลย์ออฟหลังจากตามหลัง 0-3
ลูกยิงสามแต้มระยะ 27 ฟุตของ Marcus Smart กระดอนไปรอบ ๆ ขอบสนามเมื่อเวลาที่เหลือหมดลง ก่อนที่ White จะปรากฏตัว “ราวกับฟ้าแลบ” ดังที่ Jaylen Brown กล่าวกับผู้สื่อข่าว ได้รับการรีบาวด์และเอาคืน
เสียงออดเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อลูกบอลตกลงจากตาข่าย ทำให้ต้องมีการตรวจสอบซึ่งยืนยันว่าไวท์กลายเป็นเพียงผู้เล่นคนที่สองในประวัติศาสตร์ NBA ต่อจาก “The Shot” ของไมเคิล จอร์แดนในปี 1989 ที่ทำคะแนนให้ทีมของเขาตามหลังและ เผชิญกับการกำจัด
“มันรู้สึกดี ทุกคนถามฉันว่า คุณถอดมันออกไหม และฉันก็แบบ ใช่ ฉันคิดอย่างนั้น แต่มันใกล้มากแล้ว คุณไม่มีทางรู้” ไวท์บอกกับนักข่าวหลังจากนั้น “เราแค่มีความสุขที่เราชนะ อย่างไรก็ตาม เราต้องทำมันให้สำเร็จ เราทำมันให้สำเร็จ และตอนนี้มันก็มาถึงเกมที่ 7 แล้ว”
ในตอนแรกไมอามีเอาชนะการขาดดุลเก้าแต้มโดยเหลือเวลาน้อยกว่าสี่นาทีและขึ้นนำโดยเหลือเวลาอีกเพียงสามวินาทีเมื่อจิมมี่ บัตเลอร์โยนโทษสามครั้ง แต่เซลติกส์ยังทำไม่เสร็จ
Jayson Tatum เพิ่ม 31 คะแนนสำหรับ Celtics ในขณะที่ Brown และ Smart เพิ่ม 26 และ 24 ตามลำดับ บัตเลอร์นำจ่าฝูงฮีต 24 แต้มแต่ต้องทนกับค่ำคืนที่ยากลำบาก
“บาสเก็ตบอลสำหรับคุณ บาสเก็ตบอลที่ดีที่สุด” บัตเลอร์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากนั้น “มาก มาก สนุกสนานมาก … เราอยู่ในตำแหน่งเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว เราทำได้. ฉันรู้ว่าเราจะทำมัน เราต้องไปบนท้องถนนและคว้าชัยชนะในสภาพแวดล้อมที่ทรหดมากๆ”
ตอนนี้บอสตันจะกลับบ้านที่ TD Garden เพื่อชิงชัยในเกมที่ 7 ในวันจันทร์ โดยผู้ชนะจะได้เล่นเดนเวอร์ นักเก็ตส์ใน NBA Finals ซึ่งจะปิดฉากในวันที่ 1 มิถุนายน
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวแวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ ได้ที่
duck-tarpaulins.com
|