[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
โรงพยาบาลหัวไทร : Huasai Hospital
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
ผู้อำนวยการโรงพยาบาล


นายแพทย์ยุทธพงศ์ ณ นคร

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวไทร

เมนูหลัก
ระบบออนไลน์
ITA โรงพยาบาลหัวไทร

หน่วยงานภายใน
เครือข่ายโรงพยาบาล
เครือข่าย รพ.สต.
พจนานุกรมทางการแพทย์
เวปไซต์ทางการแพทย์


  

   เว็บบอร์ด >> >>
ออรัลเซ็กส์ และใช้ sex toy มีโอกาสรับเชื้อ HIV หรือไม่  VIEW : 106    
โดย หยาด

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 185
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 10
Exp : 100%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 1.2.185.xxx

 
เมื่อ : อังคาร ที่ 23 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 เวลา 10:47:25    ปักหมุดและแบ่งปัน

ออรัลเซ็กส์ มีงานวิจัยในประเทศอังกฤษพบว่า

ผู้มีอาชีพขายบริการ เป็นโรคหนองในแท้ในลำคอจำนวนร้อยละ 1.9 จากการทำ ออรัลเซ็กซ์

งานตีพิมพ์ในนิตยสารการแพทย์ New England Journal ระบุว่าร้อยละ 50 ของมะเร็งในช่องปาก เกี่ยวข้องกับไวรัส HPV และมาจากการทำ ออรัลเซ็กซ์ และหากทำ ออรัลเซ็กซ์ ให้คน 5 คนขึ้นไปโดยไม่ป้องกัน ก็มีโอกาสมากกว่าคนทั่วไปถึง 9 เท่าที่จะเกิดมะเร็งที่ต่อมทอนซิลและมะเร็งที่ลิ้น

หนึ่งในกิจกรรมทางเพศ “ ออรัลเซ็กส์ ” มักจะเป็นสิ่งที่แทบไม่มีคู่ไหนที่จะไม่ทำ ถือเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนหรือมีรสนิยมทางเพศแบบไหนก็ตาม การทำรักทางปากไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติทางจิต หากแต่ทั้งสองต้องยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย แต่แม้จะมอบความสุขให้กับคุณทั้งคู่ แต่อันตรายที่แฝงมาด้วยก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อย

ออรัล เซ็กส์

ถือเป็นส่วนหนึ่งของการมีเพศสัมพันธ์ที่อาจทำให้คู่รักรู้สึกเพลิดเพลินหากทั้งสองฝ่ายยินยอมพร้อมใจ แต่ในบางครั้งการทำออรัลเซ็กส์อาจนำมาซึ่งโรคร้ายต่าง ๆ ได้มากมาย อย่างโรคติดเชื้อเอชพีวี ซิฟิลิส หรือแม้กระทั่งโรคเอดส์ ดังนั้น ก่อนมีกิจกรรมทางเพศด้วยวิธีนี้ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการทำออรัลเซ็กส์อย่างปลอดภัย

ออรัล เซ็กส์ คือ อะไร ?

ออรัล เซ็กส์ คือ การใช้ช่องปาก ริมฝีปาก หรือลิ้น กระตุ้นบริเวณอวัยวะเพศชาย อวัยวะเพศหญิง ทวารหนัก หรือส่วนที่อยู่ใกล้เคียงกับบริเวณดังกล่าว เพื่อให้คู่นอนเกิดอารมณ์ทางเพศ ซึ่งทำได้ทั้งคู่รักเพศเดียวกันและคู่รักต่างเพศ จากสถิติบางส่วนพบว่ากว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มคนที่เคยมีเซ็กส์ที่มีอายุประมาณ 18-44 ปี เคยผ่านการทำออรัลเซ็กส์อย่างน้อย 1 ครั้งกับคู่นอนที่เป็นเพศตรงข้ามของตนเอง และยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งระบุว่า วัยรุ่นชายหญิงที่มีอายุประมาณ 15-17 ปีกว่าร้อยละ 33 เคยทำออรัลเซ็กส์กับคู่นอนที่เป็นเพศตรงข้ามของตนเอง ซึ่งโดยรวมแล้วคู่รักในวัยต่าง ๆ มีแนวโน้มทำกิจกรรมดังกล่าวกันมากขึ้นด้วย

ข้อดีของออรัลเซ็กส์

ไม่ทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ และทำให้คู่นอนพอใจในกิจกรรมทางเพศมากขึ้น และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบการทำ ออรัลเซ็กซ์ มากกว่าการมีเซ็กซ์จริงๆ เสียอีก

ข้อเสียของออรัลเซ็กซ์

หากไม่มีการป้องกันคุณก็สามารถติดโรคได้ทุกโรคเนื่องจากการกลืนน้ำหล่อลื่นของฝ่ายหญิงหรือน้ำอสุจิของฝ่ายชายที่มีเชื้ออยู่อาจทำให้ติดโรคได้ง่ายขึ้น

โรคที่มีโอกาสติดผ่านการทำรักทางปาก ได้แก่

  • เชื้อไวรัสเอชไอวี แม้การทำออรัลเซ็กซ์จะมีโอกาสติดเชื้อนี้น้อยกว่าการมีเซ็กซ์ทางทวารหนักและช่องคลอด แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีโอกาสติดเลย โดยเฉพาะถ้าช่องปากของฝ่ายรุก และอวัยวะเพศของฝ่ายรับ มีแผลที่สดใหม่ และได้รับปริมาณเชื้อที่มากพอ จึงถือว่ามีความเสี่ยงเช่นกัน
  • หนองในแท้ ออรัลเซ็กซ์สามารถติดหนองในแท้ได้ทั้งฝ่ายรับและฝ่ายรุก
  • หนองในเทียม มีงานวิจัยพบหนองในเทียมที่อวัยวะเพศของวัยรุ่นถึงร้อยละ 10 ขณะที่พบหนองในเทียมในลำคอของกลุ่ม LGBTQ ที่ร้อยละ 1 ที่มีการทำออรัลเซ็กส์เป็นประจำ
  • ซิฟิลิส ซิฟิลิสเป็นแผลริมแข็ง เชื้อซิฟิลิสเข้าทางเยื่อบุต่างๆ ได้ ดังนั้นการสัมผัสทางปากกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หัวนม ในคนที่มีแผลริมแข็ง มีเชื้อซิฟิลิส ก็สามารถติดเชื้อซิฟิลิสได้
  • เริม ติดจากการสัมผัสผื่นเริม ดังนั้นจึงติดได้ทั้งฝ่ายรับและฝ่ายรุก
  • พยาธิ โดยเฉพาะพยาธิเส้นด้ายที่ชอบวางไข่รอบๆ ทวารหนัก ซึ่งอาจกระจายมาที่อวัยวะเพศ ดังนั้นผู้ทำ ออรัลเซ็กซ์ จึงอาจกลืนกินไข่พยาธิเส้นด้าย ไปเจริญเติบโตแพร่กระจายในลำไส้ใหญ่และทวารหนักต่อได้
  • ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสที่ว่าถูกปล่อยออกมาจำนวนมากพร้อมกับอุจจาระ ทำให้สามารถติดต่อทางออรัลเซ็กซ์ได้ หากไม่ทำความสะอาดให้ดี
  • เชื้อเอชพีวี (HPV) ซึ่งทำให้เกิดหูดหงอนไก่ในหลอดลม ทอนซิล และช่องปาก ก่อให้เกิดมะเร็งในช่องปาก ต่อมทอนซิล ลิ้นและคอได้อีกด้วย

ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ได้อย่างไรบ้าง

ใส่ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์

เพื่อเป็นการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เมื่อมีเพศสัมพันธ์ควรสวมถุงยางอนามัยตั้งแต่แรก ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ควรปัสสาวะ อาบน้ำชำระร่างกาย ทำความสะอาดตนเองและควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลหลายคน นอกจากนี้ อาจมีการติดเชื้อทาง Oral Sex ได้เช่นกัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องระมัดระวัง

ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ขณะมีเลือดออก

หากมีเพศสัมพันธ์ขณะมีเลือดออกเนื่องจากป่วยเป็นโรคต่างๆ เช่น ช่องคลอดอักเสบ ก็จะทำให้ติดเชื้อไวรัสง่ายขึ้น นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างมีประจำเดือน และการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารด้วย

ควรรักษาจนกระทั่งหายขาด

ในการเข้ารับการรักษาที่แผนกสูตินารี ก่อนอื่นจะต้องตรวจจุดซ่อนเร้นและตรวจภายในช่องคลอดมดลูก เพื่อดูสภาพของเนื้อเยื่อ มีการเก็บ ตกขาว หรือระดูขาว เพื่อตรวจดูว่ามีเชื้อแบคทีเรียไวรัสหรือไม่

และในบางกรณีอาจมีการตรวจเลือดด้วย ส่วนใหญ่แล้วโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

จะรักษาหายได้ในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ก็มีความแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล ควรรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าอาการจะหายขาด และควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากแพทย์

ควรเข้ารับการรักษาร่วมกับ Partner หรือคู่นอน

เมื่อพบว่าติดเชื้อ อย่าลืมให้ Partner เข้ารับการรักษาด้วย และควรให้ Partner รับการตรวจที่แผนกระบบขับถ่ายด้วย แม้ว่าคุณเองจะมีอาการดีขึ้น แต่หาก Partner ยังคงเป็นโรคอยู่

ก็สามารถติดเชื้อซ้ำได้อีก สิ่งสำคัญก็คือ การร่วมกันเข้ารักษาและการรักษาจนหายไปพร้อม ๆ กัน

คำถามที่พบบ่อย FAQ’s

การจูบ การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก และการใช้ sex toy มีโอกาสรับเชื้อ HIV หรือไม่

การจูบแบบเปิดปากอาจมีความเสี่ยงหากทั้งคู่มีบาดแผลในช่องปาก โดยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อ HIV  และการมีเพศสัมพันธ์ผ่านทางปาก (oral sex) ก็อาจมีความเสี่ยงในกรณีที่ฝ่ายชายมีการหลั่งน้ำอสุจิที่อาจมีเชื้อ HIV อยู่และเข้าไปในช่องปากของคู่นอนที่มีบาดแผลอยู่ในปาก อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของทั้งสองกรณีเป็นความเสี่ยงที่ต่ำ    มาก ๆ  

ส่วนการใช้อุปกรณ์เสริมในการมีเพศสัมพันธ์ (sex toy) ร่วมกันกับผู้อื่น อาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ในกรณีที่มีการใช้ต่อกันทันทีและอุปกรณ์นั้นปนเปื้อนสิ่งคัดหลั่งหรือเลือดที่มีเชื้อ HIV หรือใช้อุปกรณ์ร่วมกันกับผู้ที่มีเชื้อ HIV 

สรุป

การทำรักด้วยปากหรือออรัลเซ็กซ์ แม้จะมีโอกาสเสี่ยงติดโรคน้อยกว่าการสอดใส่ผ่านอวัยวะเพศตามปกติ แต่ความเสี่ยงอาจไม่เป็นศูนย์ เพราะฉะนั้นหากจะมีกิจกรรมออรัลเซ็กส์ ดังกล่าวควรสวมถุงยางอนามัย มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนประจำไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพราะคุณไม่อาจรู้ได้ว่าเขามีเชื้ออะไรอยู่ ระวังกันหน่อยนะครับ

อ้างอิง

https://lovefoundation.or.th/oralsex/

https://th.sofyclub.com/th/advice/comforttips/sexualdiseases.html

https://www.medparkhospital.com/content/world-aids-day
https://mydeedees.com/%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%8b%e0%b9%87%e0%b8%81%e0%b8%aa%e0%b9%8c-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89-sex-toy-%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b9%82%e0%b8%ad/